
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดงานแถลงข่าว “ผลงานสิ่งประดิษฐ์ไทยที่ได้รับรางวัลจากเวทีการประกวดระดับนานาชาติ Taiwan Innotech Expo 2025 (TIE 2025)” โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. เป็นประธาน พร้อมคณะผู้บริหาร นักวิจัย และสื่อมวลชน ร่วมแสดงความยินดี ณ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศกลางด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ วช.
ดร.วิภารัตน์ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวง อว. มีภารกิจสำคัญในการผลักดันผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ของไทยสู่เวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความไว้วางใจจากองค์กรระดับโลกให้เป็นหน่วยงานหลักของประเทศไทย ในการคัดเลือกและกลั่นกรองผลงานเข้าร่วมประกวดในนามประเทศ พร้อมเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้นักประดิษฐ์ไทยได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนานวัตกรรม และต่อยอดเชิงพาณิชย์ในระดับสากล
เวที TIE 2025 ซึ่งจัดโดยสภาการค้าไต้หวัน (TAITRA) ระหว่างวันที่ 16–18 ตุลาคม 2568 ณ Taipei World Trade Center Exhibition Hall เมืองไทเป ไต้หวัน มีผลงานเข้าร่วมกว่า 400 ผลงาน จากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ และไทย โดยประเทศไทยส่งผลงานเข้าร่วมจำนวน 37 ผลงาน จาก 10 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา
ผลงานของนักประดิษฐ์ไทยสามารถสร้างชื่อเสียงคว้า รางวัล Special Prize on Stage จาก Korea Invention Promotion Association (KIPA) ได้ถึง 2 ผลงาน ได้แก่
1. “ตู้ขายพลังงานไฟฟ้าแบบจ่ายเงินล่วงหน้า” โดย นายปฏล บุศย์น้ำเพชร และ นายณัฐชัย ถนอมธรรม จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
2. “อุปกรณ์ช่วยยึดติดลิ้นหัวใจผลิตจากวัสดุฉลาด เพื่อผู้ป่วยลิ้นหัวใจรั่ว” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.อนรรฆ ขันธะชวนะ และคณะ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ภายในงานยังมีการเสวนา “Innovation Spotlight: ความสำเร็จของนักประดิษฐ์ไทยในเวทีนานาชาติ” โดยผู้ได้รับรางวัลและนักประดิษฐ์รุ่นใหม่ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ อาทิ นางสาวปารณีย์ ทวีสุข จาก มจธ. กับผลงาน “อุปกรณ์ช่วยยึดติดลิ้นหัวใจผลิตจากวัสดุฉลาดเพื่อผู้ป่วยลิ้นหัวใจรั่ว”
นางสาวภาณุมาส บุบผามาลา จาก ม.ธรรมศาสตร์ กับผลงาน “เครื่องสกัดสารสำคัญจากสมุนไพรด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์สำหรับสัตว์เลี้ยง”
นายศิวัตม์ ลิ้มสุคนธ์ จาก รร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย เพชรบุรี กับผลงาน “PET2MOF: วัสดุโครงข่ายโลหะ–อินทรีย์เชิงยั่งยืนจากขยะพลาสติก PET สำหรับการดูดซับและการกักเก็บ”
ความสำเร็จบนเวที TIE 2025 นับเป็นอีกหนึ่งหลักฐานชัดเจนของศักยภาพนักประดิษฐ์ไทย ที่สามารถแข่งขันในระดับโลกได้อย่างภาคภูมิ พร้อมต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต