
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานแถลงข่าว “การรับมือภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ‘พายุวิภา’ ในมุมวิจัยและนวัตกรรม” ณ ห้องประชุมจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อาคาร วช. 1 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมีผู้บริหาร นักวิจัย และสื่อมวลชนร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง
รมว.อว. ระบุว่า กระทรวง อว. ให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลวิชาการและผลงานวิจัย เพื่อเตรียมพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะพายุ “วิภา” ซึ่งสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ ทั้งน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กระทรวงได้บูรณาการทำงานกับหน่วยงานวิจัยชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนองค์ความรู้และนวัตกรรม พร้อมเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือเตือนภัยและระบบวิเคราะห์ความเสี่ยงในระดับพื้นที่
หนึ่งในโครงการสำคัญที่ อว. โดย วช. กำลังดำเนินการคือ “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ใน 10 จังหวัด” ซึ่งสนับสนุนการจัดเตรียมระบบเตือนภัย การจำลองสถานการณ์น้ำ การใช้ฐานข้อมูลเชิงลึก และแผนปฏิบัติการรองรับภาวะวิกฤต โดยมีเป้าหมายในการลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืน
ภายในงานยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่นำไปใช้จริงในพื้นที่ประสบอุทกภัย เช่น
โดรนส่งเวชภัณฑ์ เพื่อสำรวจพื้นที่และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดน่าน
SANSO KUN ออกซิเจนกระป๋องความเข้มข้นสูง สำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง
Agent29 คอปเปอร์นาโนรูปเข็ม ใช้ฟื้นฟูอาคารหลังน้ำลด
ผลิตภัณฑ์เคลียร์ซอยด์ ลดปริมาณโลหะหนักในดินภายหลังน้ำท่วม
ถุงยังชีพและที่นอนยางพารา ส่งมอบโดย อว. ส่วนหน้า เพื่อบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ประสบภัย
นอกจากนี้ ยังมีการเสวนาทางวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญหลายสถาบัน เพื่อวิเคราะห์บทเรียนจากพายุ “วิภา” และเสนอแนวทางการเตรียมพร้อมรับมือกับพายุและภัยธรรมชาติในอนาคต โดยใช้คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ระบบเตือนภัยดินถล่ม และแบบจำลองน้ำฝนที่แม่นยำ
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. กล่าวเพิ่มเติมว่า วช. ได้ขับเคลื่อนการใช้ผลงานวิจัยในภาคสนามจริง ผ่านการประเมินความเสี่ยงในระดับพื้นที่ ถ่ายทอดสู่ภาคปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้การบริหารจัดการภัยพิบัติของไทยมีความแม่นยำ รวดเร็ว และยั่งยืน
การแถลงข่าวในครั้งนี้สะท้อนถึงจุดยืนของกระทรวง อว. ที่มุ่งเปลี่ยน “ข้อมูลวิจัย” เป็น “ข้อมูลช่วยชีวิต” โดยใช้วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย