
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ เปิด “ศูนย์ศึกษาและพัฒนาระบบการใช้โดรนเพื่อสนับสนุนเมื่อเกิดภัยพิบัติ” ต้นแบบ ณ ตำบลเกาะขันธ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่ภาคใต้
โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. เป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมด้วย นางวันทนีย์ เหลืองวิสุทธิ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ จ่าโทโกเมศร์ ทองบุญชู หัวหน้าศูนย์การจัดการภัยพิบัติตำบลเกาะขันธ์ และผู้ทรงคุณวุฒิจาก วช. เข้าร่วมในงาน
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง กล่าวว่า การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในการจัดตั้งศูนย์แห่งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการเทคโนโลยีโดรนกับระบบการจัดการภัยพิบัติในระดับชุมชน โดยศูนย์จะทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ ทดสอบ และพัฒนาระบบการใช้โดรนเพื่อการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนล่วงหน้า และสนับสนุนภารกิจในช่วงภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุม ซึ่งมักเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในหลายพื้นที่ของภาคใต้
“ศูนย์แห่งนี้จะช่วยยกระดับการตอบสนองฉุกเฉินของชุมชนอย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างยั่งยืน” ดร.วิภารัตน์ กล่าว
ด้าน นางวันทนีย์ เหลืองวิสุทธิ์ ระบุว่า โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยมีการถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการใช้โดรนให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น อาสาสมัคร และผู้ปฏิบัติงานภาคสนามกว่า 100 คน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสำรวจพื้นที่ แจ้งเตือนภัย และขนส่งสิ่งของช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ จ่าโทโกเมศร์ ทองบุญชู กล่าวเสริมว่า ตำบลเกาะขันธ์เป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มซ้ำซาก การมีศูนย์ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อชุมชน โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีโดรนในการสำรวจพื้นที่เสี่ยง และการขนส่งของช่วยเหลือไปยังพื้นที่ห่างไกลหรือเข้าถึงยาก พร้อมขอบคุณ วช. และสมาคมฯ ที่เห็นความสำคัญและร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ทั้งนี้ ศูนย์ต้นแบบฯ แห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ศูนย์เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ตำบลเกาะขันธ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งจะเป็นต้นแบบให้กับการจัดตั้งศูนย์ในพื้นที่อื่นที่มีความเสี่ยงในอนาคต